วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โตมากับยาย

ตอนเด็กๆ ประมาณผมเจ็ดขวบจะเห็นยายตื่นแต่เช้าประมาณตีสามตีสี่ออกไปซื้อของที่ตลาด ผมก็จะตามไปช่วงเช้าๆ ประมาณหกโมงเช้า  ไปขอตังค์ยายซื้อขนมข้าวเกรียบที่เป็นแผ่นกลมๆ สมัยนั้นซื้อบาทสองบาทได้ตั้งหลายแผ่น  ทุกวันนี้แผ่นละห้าบาทไปแล้ว  นับวันก็ยิ่งขอเพิ่ม  จะซื้อขนมสายไหม  ซื้อรวมมิตรอีก  ยายก็ไม่เคยขัด แต่ผมจะไปขอแม่น่ะขอได้ยาก  แม่ไม่อยากให้ซื้อขนม  แต่ไปขอยายก็ได้ทุกทีไม่มีบ่น

พอโตมาอีกหน่อยประมาณสิบขวบ ก็ยังแบมือขอตังค์อยู่ จากชอบขนมข้าวเกรียบก็มาชอบกินเต้าฮวย ผมไม่ใช่ลูกคนจีนนะแต่ชอบกินเต้าฮวยไม่รู้ทำไม  เต้าฮวยเป็นยาเนอะ  เช้าๆ แม่จะใช้มาซื้อน้ำเต้าฮู้ ปาท่องโก๋ กะเต้าฮวย  ได้ตังค์จากแม่แล้วก้อแวะไปขอยายอีกเป็นได้ตังค์สองต่อ  นี่หัวเสอีก  ไว้ซื้อขนมได้เพิ่มขึ้น

พี่น้องผมทั้งสามคนยายเป็นคนเลี้ยงมา กับมือทั้งหมด  แม่ไม่ค่อยมีเวลาแล้วต้องทำงานตลอด  เคยฟังยายเล่าให้ฟังเรื่องสมัยตอนแรกเกิด  ที่ผมต้องมาให้ยายเลี้ยงเพราะช่วงนั้นแม่เป็นอาจารย์ฝึกสอน  หยุดเลี้ยงลูกไม่ได้ไม่งั้นจะไม่ได้บรรจุ  ผมเป็นเด็กเกิดหน้าร้อน  ยายบอกแกเลี้ยงยาก  ขี้แยร้องไห้จ้าได้ทั้งวัน  เอ...รึว่าจะเป็นโคลิค  จะโยเยขอกินนมแม่ตลอด  นมขวดไม่ชอบกิน  วันนั้นทำไงก็ไม่หยุดร้องไห้สักทียายเลยตัดสินใจเอานมเหี่ยวให้กิน ก็แปลก เด็กหยุดร้อง ก็กินนมเหี่ยวไม่มีน้ำนมไป  ใครๆถามผม ผมไม่ได้โตด้วยนมวัว  ไม่ได้โตด้วยนมแม่นะ แต่ผมโตมาด้วยนมยาย ^^

ปกติยายจะไม่ค่อยจ้ำจี้จ้ำไชกับผม เท่าไหร่หรอก  ถึงแกจะชอบบ่นแต่ก็บ่นไปเรื่องไม่เป็นเรื่อง  คำสอนหนึ่งที่ยายบอกกับผมตอนที่ใช้ฝ้ายขาวผูกแขนให้ทุกครั้งที่จะเดินทางไกล ไปไหนมาไหน ยายจะว่า "ขอให้เอ็งเดินทางไปมาปลอดภัย ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำ อย่าเป็นคนขี้เกียจ  ทำอะไรก็ขอให้สำเร็จ และเกมส์อย่าเล่นหลาย" ผมก็รับคำมา "สาธุ" แต่ทำให้เหมือนที่ยายอยากให้เห็นไว้ไม่ถึงครึ่งหรอก

ก่อนหน้าความทรงจำจะหมดลง  ช่วงวันเข้าพรรษา  แม่โทรมาชวนว่าไม่กลับบ้านมั่งเหรอ ยายป่วยนะตอนนี้เข้าโรงพยาบาลที่อุบล  ผมก็บอกไปให้ยายหายป่วยเร็วๆ แล้วกัน นึกไปเองว่าไม่เป็นไรหรอกยายก็แก่แล้ว  ป่วยแป๊บๆ เดี๋ยวแกก็ออกมาสั่งสอนลูกหลานเหมือนเดิม  ไว้กลับบ้านคราวหน้าก็เจอยาย  เมื่อไหร่จะกลับก็ได้ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร  ไม่เป็นไรเสมอ  ไม่เคยมีอะไรที่จะต้องเป็นไรเลย ผลัดไปก่อนได้อยู่แล้ว

จากนั้นบ่ายวันที่ 24 แม่โทรมาบอก ยายเสียแล้ว ผมได้ยินแล้วแต่ผมพูดซ้ำๆ ว่าหาอะไรนะ เป็นยังไง  เป็นไปได้ยังไง แม่ก็บอกให้รีบกลับบ้านมาทำบุญงานศพให้ยาย  ทำให้ยายครั้งสุดท้าย  รายละเอียดเท่าที่ถามมา  ยายป่วยหนักเข้าออกโรงพยาบาลมาสองสามอาทิตย์แล้ว  ก็คงตั้งแต่ที่แม่โทรมาบอก  สักสองสามวันก่อนหน้าเหมือนอาการจะทุเลาลง  เลยพามารักษาตัวนอนห้องพิเศษที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน  แต่แล้วก็ป่วยหนักขึ้นจนยายอยู่ไม่ไหว  เสร็จแล้วเราก็ต้องกลับไปบ้านยายเย็นวันนั้น

พอบอกกับเพื่อนว่ายายเสีย มันบอกเสียทำไมไม่เอาไปซ่อม แกอายุเท่าไหร่ละ ก็ประมาณเจ็ดสิบกว่าๆ คำต่อมาบอกว่าน่า...แก่แล้วสมควรตายได้แล้ว เลยบอกมันอย่างสุภาพว่า แล้วแม่ง ปากหมาอย่างเมิง ถ้าจะให้ตายวันนี้ก็สมควรแล้วใช่เปล่าครับ  จนผมมาลองคิดดูชักจะสงสัยแล้วว่าผมมีเพื่อนยังไงอยู่ใกล้ตัวกันแน่

 

กลับมาถึงบ้านยาย  พบเห็นแต่ร่างเปล่าขาวซีด  เนื้อกายเย็นเยือก นอนว่างเปล่า ไร้วิญญาณความรู้สึกบอกว่า  ต่อไปนี้ไม่มีแล้วนะ  ไม่มียายแล้ว  ยายไปแล้ว  ยายเสียแล้ว  ยายไม่อยู่เป็นกำลังใจให้ผมก่อนเหรอยาย  ช่วงชีวิตที่ยายเห็นผมผมยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน  ไม่ได้ทำสักอย่างให้สำเร็จให้ยายชื่นใจเลย  ยายจ๋าไม่รอดูหลานสะไภ้ยายก่อนเหรอเธอต้องน่ารักน่าเอ็นดูมากเลยนะถึงแม้ตอน นี้จะยังไม่มีก็ตาม  ผมเคยกะว่าหลังจากที่ตัวเองตั้งตัวได้ จะพากันไปทุกคนในครอบครัว  ไปเที่ยวดูที่ที่ผมประทับใจ  แต่วันนี้ต้องขาดยายไปแล้ว  ยายจะมาหายไปได้ยังไง 

แม้จะกอดยายเหมือนที่น้าหมีทำเวลาผม กะเคยนึกเล่นๆว่า ถ้าเมาๆ หนักๆมาเคลิ้มๆ จะแกล้งออเซาะไปกอดยายเหมือนที่น้าทำดูอบอุ่นดีออก  ยังมีอีกหลายอย่างนะ ไม่รู้จะคิดว่ายังไงแล้ว  จะบอกตัดพ้อไม่มีประโยชน์แล้วไม่ได้อะไรแล้ว  แต่ก่อนนั้นมีโอกาสทำไมไม่ทำ  ถึงแม้งานศพผมจะพยายามทำทุกอย่างที่ตัวเองทำได้ มีอะไรจะทำให้ดีที่สุดเพื่อ ยายครั้งสุดท้าย แต่ก็สวนทางกับคำว่ามาทำอะไรเอาป่านนี้ ไอ้คำว่าเอาไว้ก่อน  ไว้วันหลัง เมื่อไหร่ก็ได้ ผมต้องลบมันออกจากตัวเองแล้วละ เพราะสุดท้ายคนเราย้อนเวลาไปทำในสิ่งที่อยากทำไม่ได้  เมื่อมันทำไม่ได้แล้ว

ยาย บุญเรือน  ไชยภูมิ  จากไปด้วยโรคมะเร็งในถุงน้ำดี อายุ 76 ปี มีบุตรธิดารวม 8 คน ไหนแกจะเลี้ยงลูกหลายคน พอแกแก่มาก็ต้องเลี้ยงหลานอีกนับไม่ถูก  อยากรู้เหมือนกันยายทนเลี้ยงมาได้ยังไง  แม่เหนือแม่ที่ผมยกให้เป็นตัวอย่างที่หนึ่งเสมอคือยาย

ในงานศพเขากล่าวเหมือนกันคล้ายๆ กับทุกงาน แต่ตอนที่น้าออกมาอ่านกลอนถึงยายเนื้อหากลอนซึ้งมากแต่ผมจำไม่ได้ เลย น้าเองอ่านไปก็ร้องไห้ไปในกลอนบทสุดท้ายจนจับความไม่ได้นอกจากเสียง สะอื้น ผมก็ได้แต่นั่งร้องไห้  อย่างที่ไม่เคยร้องให้ใครมาก่อน และไม่เคยคิดที่จะอายแม่จะร้องไห้ต่อหน้าผู้คนมากมายในงาน หรือที่จริงผมมีแต่น้ำตาเท่านั้นที่จะส่งถึงยายได้

คำว่าคนที่จากไปแล้วจะไปสวรรค์ ไปที่ชอบที่ชอบ  แต่ก่อนผมก็เข้าใจหรอกนะ  ว่าบอกว่าไปสวรรค์เพื่อให้คนที่อยู่สบายใจ  แต่ผมซึ้งและเข้าใจดีก็ครั้งนี้ที่รับถึงความรู้สึกแท้จริงของคำนี้

ใช่แล้ว ยายไปสวรรค์แล้ว

หลานชายคนกลาง ของลูกสาวคนแรก

เด็กน้อยพริ้มตาหลับลง
หัวใจปลดปลงความถูก–ผิด
หายใจแผ่วเบาเฝ้าครุ่นคิด
กระทั่งหลับสนิทกับอกยาย


"ชีวิตไม่มีอายุ
หาใช่ความหมายอื่น
มิใช่อัตตายั่งยืน
แต่จักสดชื่นชุ่มเย็น-"


"-อย่าได้กำหนดสิ่งใด
เพียงใช้เหตุสายตาเห็น
เพียงเพราะคาดว่าน่าจะเป็น
โลกมีข้อ "ยกเว้น" เสมอกาล..."


ดอกแก้วโชยกลิ่นหอมกรุ่น
อ่อนโยนละมุนแผ่วผ่าน
เคล้ากลิ่นพิกุลกลางลาน
รอราตรีกาลเยี่ยมเยือน...


กลอนจากเว็บ http://www.khonnaruk.com

รวมเรื่องเก่าๆ วันที่ 29 กรกฏาคม 2549 --- เขียนเนื่องจากวันแม่ปี 49

1 ความคิดเห็น:

  1. JackpotCity Casino Resort & Spa | Dr.MCD
    The casino and resort features 제주 출장샵 live table 천안 출장샵 games like blackjack and roulette, along with a full-service spa 구리 출장안마 and 청주 출장샵 salon. Jackpot City offers 서산 출장마사지 a large selection

    ตอบลบ