เรื่องความดื้อความซนของผมมีมาตั้งแต่จำความได้ เกเรก็เท่านั้น
ในช่วงที่เป็นเด็กเด็กคนอื่น ๆ อาจพากันเล่นเกมส์ ดูทีวี
ดูการ์ตูนอยู่ที่บ้าน แต่ผมชอบตามพี่ที่อยู่ข้างบ้านออกไปเล่นไพ่
ชักชวนกันโขมยผลไม้ตามสวน
ดีนะที่ผมไม่ติดการพนันจนเป็นนิสัยถ้ายังติดเล่นไพ่จนโตละก็ทุกวันนี้อาจ
เป็นผีพนันทำที่บ้านวอดวายก็อาจเป็นได้ อาจจะเห็นว่าเป็นการซุกซนแบบเด็ก ๆ
แต่ตอนเด็ก ๆ ผมนำความเดือนร้อนมาให้พ่อกับแม่เสมอเลย
ขอบคุณนะครับพ่อแม่ที่เลี้ยงดูผมมาไม่ว่าผมจะเป็นอย่างไร
ขอบคุณที่อดทนกับผม จนทุกวันนี้ผมก็พึ่งเข้าใจและพยายามทำตัวดีขึ้นไม่ติดเอานิสัยช่วงเป็นเด็กออกมาเดินหน้าสู่โลกของผู้ใหญ่ที่ดี
ทุกทีที่ผมทำความผิดกลับมา
คาดว่าเลยว่าแม่รู้นี่โดนด่ายับแน่ ๆ
แต่แม่จะพูดกับผมเพียงประโยคสองประโยค
ทั้งที่ความจริงก็อยากให้แม่ด่าให้สมกับที่ทำเรื่องร้าย ๆ มา
อยากถูกลงโทษว่ากล่าวตักเตือนหนัก ๆ เหมือนครอบครัวอื่น
แต่แม่จะพูดน้อยมาก
อย่างครั้งหนึ่งแม่ก็บอกกับผมเพียงว่า"ไม่เคยสอนลูกให้เป็นอย่างนี้
ไม่เคยสอนลูกให้ทำแบบนี้"
แล้วก็ปล่อยผมไว้กับความเงียบ
รู้มาตลอดว่าแม่ชอบเครียดกับผมมาก
เพราะไม่มีอะไรที่ทำให้แม่ได้สมหวังเหมือนอย่างพี่ชายคนโต
แต่การไม่ด่าโวยวายมากมายก็เป็นสิ่งที่ดี
นั่นทำให้ผมกลับมาคิดและทบทวนแก้ไข จะทำอะไรคิดให้มาก ๆ ก่อนทำ
ทำแล้วแม่เสียใจมันก็ไม่ควร
12 สิงหาคม พอวันแม่ทีไร
วันหยุดนี้จะไปเที่ยวกับแม่ตลอดถ้าผมอยู่บ้าน
ครอบครัวเราที่บ้านไม่ค่อยพูดคุยกัน
พ่อกับแม่ทำงานหนักมากช่วงที่ผมเรียนประถมจนมัธยมต้น
พ่อกับแม่จะไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่กับบ้านเลย ไม่รู้สินะช่วงเวลาที่ขาดหาย
ทำให้ความสัมพันธ์มันดูห่าง ๆ ออกไปแต่ผมก็รู้ว่าครอบครัวเรารักกันดี
แม้ไม่ต้องเอ่ยออกมา
ครั้งหนึ่งนะทำที่ผมจำได้ในงานวันแม่ของโรงเรียนเขาจัดงาน
ให้นักเรียนนำแม่มาไหว้และทำกิจกรรมวันแม่
ตอนนั้นก็มีผมคนหนึ่งที่โดนหางเลขกะเขาแล้วก็ต้องกราบมอบดอกมะลิให้แม่ในวัน
งาน ตามความคิดทีแรกผมคิดว่าก็คงไม่มีอะไรมากมายนักหรอก ไหว้ ๆ
เสร็จแล้วก็เลิกกลับบ้าน แต่พอเอาเข้าจริง ๆ การกราบเท้าแม่โดยใช้ดอกมะลิ
(ตอนนั้นผมหาดอกมะลิไม่ได้
ด้วยสิเอาดอกพุทซ้อนไปไหว้แม่แทนเฉยเลย) ก้มกราบลงไปผมก็ขนลุกซู่น้ำตาก็ไหลออกมาเอง แม่ผมก็ตัวสั่นน้ำตาคลอเบ้า นั่นเป็นครั้งแรกด้วยมั้งที่ผมกราบเท้าแม่ จนเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากกราบเท้าท่านทุกปี ๆ เป็นสิ่งแสดงความรักอย่างเดียวที่ผมทำได้
ด้วยสิเอาดอกพุทซ้อนไปไหว้แม่แทนเฉยเลย) ก้มกราบลงไปผมก็ขนลุกซู่น้ำตาก็ไหลออกมาเอง แม่ผมก็ตัวสั่นน้ำตาคลอเบ้า นั่นเป็นครั้งแรกด้วยมั้งที่ผมกราบเท้าแม่ จนเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากกราบเท้าท่านทุกปี ๆ เป็นสิ่งแสดงความรักอย่างเดียวที่ผมทำได้
พอเข้าเรียนสายอาชีวะ ถึงวันแม่เวียนมาอีกปี
ตอนนั้นมีความคิดอยากหาของขวัญให้แม่สักชิ้น
ผมคิดไปว่าจะวาดรูปดรออิ้งให้แม่
วาดภาพเหมือนไว้ให้แม่เอาไปแขวนไว้ที่บ้าน
จะได้คิดถึงลูกชายคนที่วาดให้บ่อย ๆ อุปกรณ์ดินสอ
กระดาษร้อยปอนด์ผมก็เตรียมมาหมด แต่ตอนที่วาด
ผมเอารูปแม่มาวางไว้เป็นแบบแล้วค่อย ๆ วาดตาม วาดไปแล้วคิดถึงแม่
ความรู้สึกว่ามันนานแล้วที่เราไม่ได้ตั้งใจมองหน้าแม่นาน ๆ
เคยคิดแต่ว่าก็เคยเห็นมาแต่เล็กแล้วนี่ เห็นจนชินแล้ว ดูดี ๆ
จึงรู้ว่าปีนี้แม่แก่ลงมาก
มันเป็นสิ่งที่เราปล่อยปะละเลยเราห่างเหินท่านไป
ทั้งที่เป็นคนที่อยู่ร่วมกับเรา
ตั้งแต่เล็กจนใหญ่กลับไม่สนใจเอาใจใส่ดูแล มองผ่านความรักที่แม่มีให้ลูก
ผมเลยคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ความหลังทั้งตอนเป็นเด็กเล็ก ๆ
จนเป็นเด็กที่โตแต่ตัวในวันนี้ น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาเอง
แค่วาดไปได้แค่โครงหน้า ผมรู้ว่าตัวเองวาดไม่ไหว
พอจะเริ่มวาดในวันใหม่น้ำตามันก็ไหล
ออกมาและได้แต่นั่งร้องไห้แทนที่จะเขียนรูปลงไป...
จะว่าเคยกอดแม่มั้ย ตอนเด็ก ๆ ผมก็คงจะเคยกอด
แม่แต่พอโตมาเรื่องการโอบกอดบอกแม่ว่า "แม่ครับ ผมรักแม่นะ"
กลับเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมันไม่ชินนะ คิดว่าจะทำก็ไม่ไหวมันเขินมันอาย
แม่แต่พูดทางโทรศัพท์ เวลาที่แม่โทรมาหาผม
บางทีก็มีความคิดแว๊บมาว่าบอกรักแม่มั่งดีมั้ยนา แม่ก็วางโทรศัพท์ไป
ไม่รู้อะไรเหมือนกันคุยโทรศัพท์กับแม่เนี่ยคุยได้ไม่ถึง 5 นาที
ชนิดคุยเอาแต่สาระสำคัญ ไม่มีการคุยเล่นคุยเสร็จวาง
ตอนอยู่บ้านด้วยกันเวลาคุยกันก็จะคุยแต่เรื่องตลกกัน
ไม่มีใครหยิบยกเรื่องซีเรียสมาบอกกล่าว
ผมรู้แม่ก็มีปัญหาเหมือนกันมีเรื่องหนักใจมากเหมือนกัน
มีอะไรก็คุยกับลูกชายคนนี้บ้างก็ได้นะแม่
ผมเป็นคนในครอบครัวมีปัญหาอะไรก็อยากรู้ปัญหาในครอบครัวบ้าง
และสุดท้ายนี้ละนะถึงผมจะไม่ได้บอกรักแม่จนเอ่ยออกมาเป็นคำ
พูดได้ แต่ความรู้สึก และความผูกพันธ์ก็ยังคงอยู่สม่ำเสมอ
จะรักแม่ให้มาก ๆ เพราะรู้ว่าแม่ก็รักและหวังดีกับผมมากเช่นกัน
เรารู้กันดีแล้วความอบอุ่นก็จะเป็นเช่นนี้เรื่อยไป
พระคุณแม่กว้างสุดดินเหนือกว่าฟ้า
รักมารดาเสียยิ่งกว่าดวงตาข้าเป็นไหน ไหน
นานเท่าไรใครทนเลี้ยงคนจนเติบวัย
กราบเท้าแม่ด้วยรักไซร้ใจผูกพันธ์
รักมารดาเสียยิ่งกว่าดวงตาข้าเป็นไหน ไหน
นานเท่าไรใครทนเลี้ยงคนจนเติบวัย
กราบเท้าแม่ด้วยรักไซร้ใจผูกพันธ์
ลูกชายคนกลาง
รวมงานเขียนเก่าๆ 15 สิงหาคม 2548
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น